แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิศวกรรมศาสตร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิศวกรรมศาสตร์ แสดงบทความทั้งหมด

วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering)

วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering)


        เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการนำวิทยาการและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ คิดค้น ออกแบบ และประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ รวมทั้งการนำทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาดัดแปลงและปรับปรุงเพื่อยกระดับมาตรฐานการครองชีพของมนุษย์ให้ดีขึ้น การศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ต้องมีพื้นฐานที่ดีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และมีความถนัดเชิงวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการต่อไปในภายภาคหน้า 


เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง

        หลักสูตรของคณะวิศวกรรมศาสตร์จะเรียนทั้งหมด 4 ปี โดยจะเรียนเกี่ยวกับฟิสิกส์, แคลคูลัส, กลศาสตร์, จริยธรรมสำหรับวิศวกร เพื่อสร้างวิศวกรที่มีคุณภาพในการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต
แบบทดสอบเกี่ยวกับวิชาพื้นฐานของวิศวกรรมศาสตร์
หมายเหตุ ท่านสามารถคลิกชื่อแบบทดสอบเพื่อเชื่อมโยงไปยัง Link ทำแบบทดสอบได้เลยค่ะ

วัสดุช่างอุตสาหกรรม Industrial materials 

กลศาสตร์ของแข็ง (Mechanics of Solids)

กลศาสตร์ของไหล (Fluid Mechanics) 

งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น (Electronics and Electrical Practice)

ความรู้พื้นฐานด้านกลศาสตร์วิศวกรรม (Engineering Mechanics)

วัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) 

ความรู้เกี่ยวกับงานโครงสร้างอาคาร 

สิทธิมนุษยชน (Human Right) 

โลหะวิทยาเบื้องต้น (Fundamental Metallurgy)

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)

เทคโนโลยีคอนกรีต  (Concrete Technology)

เศรษฐศาสตร์วิศวกรรม (Engineering Economy) 

การออกแบบเครื่องจักรกล (Machine Design)


1. สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 
เป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องการวิเคราะห์ การออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์อุปกรณ์ที่นำเอาความรู้ทางด้านระบบดิจิตอลมาประยุกต์ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ได้ และเกี่ยวข้องกับการใช้คอมพิวเตอร์

แนวทางประกอบอาชีพ

1) วิศวกรคอมพิวเตอร์
2) วิศวกรซอฟต์แวร์
3) วิศวกรปัญญาประดิษฐ์
4) นักวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล
5) นักวิชาการคอมพิวเตอร์
6) นักวิเคราะห์และออกแบบระบบคอมพิวเตอร์
7) นักเขียน/พัฒนาโปรแกรม
8) นักพัฒนาไมโครคอนโทรลเลอร์และระบบสมองกลฝังตัว
9) ผู้ดูแลระบบเครือข่าย
10) นักวิชาการ อาจารย์ และนักวิจัยด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
11) ประกอบธุรกิจส่วนตัวด้านระบบคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
12) ผู้ประกอบการใหม่ หรือ Startup

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์

เทคโนโลยีคลาวด์ Cloud Technology

ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence)

วิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering)

 
2. สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี (Chemical Engineering) 

วิศวกรรมเคมีเป็นสาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี รวมไปถึงการควบคุมการผลิตและออกแบบโรงงาน ผู้ที่ศึกษาทางด้านนี้จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์เคมีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ศาสตร์ของวิศวกรรมเคมีสามารถประยุกต์ใช้ได้กับเทคโนโลยีหลากหลาย เช่น เทคโนโลยีทางด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม  กระบวนการทางชีวภาพ วัสดุศาสตร์ ปิโตรเคมี ยาและอาหาร เป็นต้น

แนวทางในการประกอบอาชีพ

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิศวกรรมเคมีสามารถประกอบอาชีพได้ในหลายๆด้าน เช่น วิศวกรควบคุมและวางแผนการผลิต วิศวกรออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ปิโตรเลียม สิ่งทอ ยาและอาหาร เป็นต้น

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมเคมี

กลศาสตร์ของไหล (Fluid Mechanics) 

เคมีอินทรีย์ (Organic Chemistry)

ความรู้พื้นฐานด้านกลศาสตร์วิศวกรรม (Engineering Mechanics)

วัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) 


3. สาขาวิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering)

ศึกษาการวิเคราะห์ และออกแบบชิ้นส่วนเครื่องจักร และสิ่งประดิษฐ์ ออกแบบแปลนการติดตั้ง ควบคุมการใช้งาน ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องจักรกล ระบบความเย็น ระบบปรับภาวะอากาศ หม้อไอน้ำ กังหันไอน้ำ และระบบท่อประเภทต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาทางด้านประหยัดพลังงาน และพลังงานทดแทนประเภทต่าง ๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เครื่องยนต์ เชื้อเพลิงผสม เป็นต้น 

แนวทางประกอบอาชีพ

งานด้านวิศวกรรมเครื่องกลนับว่ามีความหลากหลายมากเมื่อเทียบกับวิศวกรรมแขนงอื่นๆ ตัวอย่างของงานและการประกอบวิชาชีพด้านวิศวกรรมเครื่องกล เช่น
    - งานติดตั้ง ใช้งาน ซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรกล ควบคุมคุณภาพกระบวนการผลิตต่างๆ
    - งานออกแบบและผลิตชิ้นส่วนทางวิศวกรรม อากาศยาน ยานยนต์ เรือ หม้อไอน้ำ
    - งานด้านการออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องจักร ออกแบบและจำลองผลด้วยคอมพิวเตอร์ 
    - งานระบบควบคุมอัตโนมัติ ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และการคำนวณเชิงตัวเลข 
    - งานด้านการออกแบบและจัดการพลังงาน โรงจักรต้นกำลัง 
    - การเผาไหม้ ระบบท่อ ระบบปั๊มและกังหัน เครื่องยนต์ การขุดเจาะน้ำมัน
     - งานด้านระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ ระบบแลกเปลี่ยนความร้อน การระบายอากาศในตัวอาคาร

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมเครื่องกล

ความรู้พื้นฐานด้านกลศาสตร์วิศวกรรม (Engineering Mechanics)

กลศาสตร์ของแข็ง (Mechanics of Solids)

กลศาสตร์ของไหล (Fluid Mechanics) 

วัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) 

โลหะวิทยาเบื้องต้น (Fundamental Metallurgy)

การออกแบบเครื่องกล  (Mechanical Design)


4. สาขาวิศวกรรมต่อเรือและวิศวกรรมสมุทรศาสตร์ (Naval Architecture and Ocean Engineering)

การศึกษา วิเคราะห์ การออกแบบ รวมทั้งการผลิตและการประกอบพาหนะทางน้ำชนิดต่าง ๆ ตลอดจนถึงการออกแบบระบบต่าง ๆ ภายในตัวเรือ เช่น ระบบขับเคลื่อน ระบบท่อ ระบบปรับอากาศ รวมถึงโครงสร้างข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ท่าเรือ อู่ต่อเรือ จึงเป็นวิชาชีพที่มีความเกี่ยวเนื่องกับวิศวกรรมสาขาอื่น ๆ เช่น วิศวกรรมโยธา เครื่องกล ไฟฟ้า อุตสาหกรรม โดยมีลักษณะที่นำเอาความรู้ในสาขานั้น ๆ มาประยุกต์ใช้ในทางเรือ 

แนวทางประกอบอาชีพ วิศวกรต่อเรือ, วิศวกรนอกฝั่ง, วิศวกรเครื่องกล/เครื่องกลเรือ, วิศวกรรมกระบวนการผลิต, วิศวกรควบคุมระบบ, ประกอบอาชีพอิสระด้านวิศวกรรมต่อเรือ, วิศวกรในโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการ, ผู้ประกอบกิจการอู่ต่อเรือ

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมต่อเรือและวิศวกรรมสมุทรศาสตร์


5. สาขาวิศวกรรมยานยนต์ (Automotive Engineering)
เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีพื้นฐานความรู้ทางวิศวกรรมเครื่องกลมาประยุกต์ใช้ในด้านการออกแบบและด้านการผลิต มีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิต และรู้จักการใช้เครื่องจักร อุปกรณ์ทันสมัยอย่างมีประสิทธิภาพและรองรับความเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบันที่มีอยู่มากมาย 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

วิศวกรยานยนต์ประจำโรงงาน วิศวกรอำนวยการผลิต วิศวกรควบคุมคุณภาพสินค้า วิศวกรควบคุมหรือซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลภายในโรงงานทางด้านอุตสากรรมยานยนต์

วิศวกรออกแบบ ทดสอบ งานทางด้านยานยนต์

วิศวกรควบคุมการติดตั้งระบบงานทางด้านยานยนต์

วิศวกรการขายหรืองานบริการทางด้านเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์ วิศวกรประจำทีมการแข่งขัน หรือฝ่ายจัดการแข่งขันทางด้านยานยนต์

อาจารย์ / นักวิชาการและนักวิจัยทางด้านวิศวกรรมยานยนต์

ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมบริการทางด้านยานยนต์

งานอื่นที่เกี่ยวข้องกับทางวิศวกรรมยานยนต์และเครื่องกล เช่น วิศวกรประเมินราคา ฯลฯ

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมยานยนต์


6. สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า (Electrical Engineering)

การวิเคราะห์ ออกแบบ และสร้างสิ่งประดิษฐ์อุปกรณ์และระบบไฟฟ้ากำลัง ไฟฟ้าสื่อสาร อีเล็กทรอนิคส์และระบบควบคุม โดยเน้นหนักด้านประสิทธิภาพในการทำงาน ความเชื่อถือได้ ความปลอดภัย ความประหยัดของสิ่งต่าง ๆ ดังกล่าว และเกี่ยวกับการใช้งาน การตรวจสอบวัสดุสิ่งประดิษฐ์ อุปกรณ์ ระบบดังกล่าวด้วย 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

- วิศวกรดูแลระบบการผลิต ส่งจ่ายไฟฟ้า

- วิศวกรดูแลระบบโทรคมนาคม สื่อสารในองค์กรต่างๆ

- วิศวกรควบคุมระบบไฟฟ้าและติดตั้ง บำรุงรักษาในโรงงานอุตสาหกรรม

- วิศวกรทดสอบและวิจัยผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า

- วิศวกรที่ปรึกษา วางแผนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

- วิศวกรควบคุมกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม

- ข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหกิจอาจารย์ในสถาบันการศึกษา

- กิจการส่วนตัว เช่น ผู้รับเหมานักออกแบบ

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมไฟฟ้า

การวัดและเครื่องมือวัดทางไฟฟ้า (Electrical Measurement and Instrumentation)

งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น (Electronics and Electrical Practice)

วัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) 


7. สาขาวิศวกรรมโยธา  (Civil Engineering) 

ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภคของประเทศ ซึ่งครอบคลุมวิชาการด้านต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ได้แก่ วิศวกรรมสำรวจ เพื่อการจัดทำแผนที่จากภาคสนาม การสำรวจด้วยภาพถ่ายทางอากาศ และภาพถ่ายจากดาวเทียม วิศวกรรมโครงสร้าง เกี่ยวกับหลักกลศาสตร์ของวัสดุและโครงสร้าง การทดสอบคุณสมบัติทางกล และกำลังของวัสดุทางวิศวกรรม การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างไม้ เหล็ก คอนกรีตเสริมเหล็ก และคอนกรีตอัดแรง 

แนวทางประกอบอาชีพ

บัณฑิตที่จบการศึกษาตามหลักสูตรมีสิทธิ์เข้าสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมสาขาวิศวกรรมโยธาจากสภาวิศวกร ซึ่งจะสามารถปฏิบัติงานเป็นวิศวกรโยธาทั้งในภาคเอกชนและส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจที่มีภารกิจเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา อาทิ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าเท่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค เป็นต้น นอกจากนั้น ผู้จบการศึกษายังสามารถประกอบอาชีพอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เช่น นักธุรกิจ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)

เทคโนโลยีคอนกรีต  (Concrete Technology)


8. สาขาวิศวกรรมปฐพี (Geotechnical Engineer)

วิศวกรรมปฐพีเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ออกแบบและโครงสร้างของการก่อสร้าง และระบบอื่น ๆ ที่ทำจากหรือประคองดินหรือหิน กลุ่มวิศวกรรมธรณีเทคนิคที่คณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดำเนินการวิจัยที่มีความหลากหลายเกี่ยวกับการอธิบายลักษณะของ  รูปแบบการทดลองและที่เป็นส่วนประกอบของดินหินและวัสดุสังเคราะห์ การบรรเทาอันตรายดินบนตอนล่าง พื้นลาดเอียงตามธรรมชาติและที่สร้างขึ้นมาการออกแบบกำแพงดินหลุมฝังกลบโครงสร้างการรักษารากฐานโครงสร้างและทางเท้า

แนวทางประกอบอาชีพ

วิศวกรปฐพี

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมปฐพี

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)

9. สาขาวิศวกรรมโลหการ (Metallurgical Engineering)

เป็นศาสตร์และศิลปะในการสกัดโลหะจากสินแร่ของมันแล้วทำให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น หลังจากนั้นจัดเตรียมและทำให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับการใช้งาน 

แนวทางประกอบอาชีพ

หลักสูตรวิศวกรรมโลหการเป็นหลักสูตรที่เปิดกว้าง โดยประกอบไปด้วยรายวิชาพื้นฐานทาง วิศวกรรม และโดยเฉพาะอย่างย่ิงรายวิชาวิชาชีพเฉพาะทางวิศวกรรมโลหการ ที่ผู้ศึกษาสามารถเรียน ได้ตามความถนัด ยกตัวอย่างเช่น วิชาชีพทางด้านการสกัดโลหะจากแร่และกากของเสียใน อุตสาหกรรม การผลิตโลหะสะอาดและการนํากลับมาใช้ใหม่ การควบคุมกระบวนการหล่อหลอมและ ผลิตข้ึนรูปโลหะ การเช่ือมและการตัดแต่งชิ้นงาน การทดสอบสมบัติเชิงกลและตรวจสอบความ เสียหายของชิ้นงานและอุปกรณ์ การอบชุบชิ้นงานโลหะและการเคลือบผิว การป้องกันการกัดกร่อนใน โลหะ การผลิตช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือสารแม่เหล็กท่ีเป็นโลหะ เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวิชาชีพที่ มีภาคอุตสาหกรรมรองรับ รวมถึงสถาบันทางการศึกษาและวิจัยพัฒนาในหน่วยงานของรัฐอีกด้วย

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมโลหการ

โลหะวิทยาเบื้องต้น (Fundamental Metallurgy)

วัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) 


10. สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering) 

เกี่ยวข้องกับการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงสภาวะแวดล้อม และสร้างที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยและการพัฒนาของมนุษย์ ขอบเขตวิศวกรรมสุขาภิบาล ยังครอบคลุมถึงการแก้ปัญหาสุขอนามัยภายในโรงงานอุตสาหกรรม การขจัดมลพิษและมลภาวะของน้ำ อากาศ และอื่น ๆ อันสืบเนื่องมาจากอุตสาหกรรมและการอยู่อาศัย ในสาขาวิชานี้มีการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนป้องกันและรณรงค์กับมลภาวะต่าง ๆ ของสภาวะแวดล้อม 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

(1) วิศวกรที่ปรึกษาด้านการออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง และควบคุมการเดินระบบ

(2) ข้าราชการ อาจารย์ นักวิชาการและนักวิจัยในสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานทางราชการ

(3) พนักงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานทางราชการ

(4) พนักงานในหน่วยงานเอกชนบริษัทและโรงงานอุตสาหกรรม

(5) ผู้ประกอบการอิสระในตำแหน่งวิศวกรสิ่งแวดล้อม

(6) ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)

การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Environmental Protection)

สิ่งเเวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต (Environment and Life)

สิ่งแวดล้อมศึกษา (Environmental Education)



11. สาขาวิศวกรรมสำรวจ 
(Survey Engineering)

เกี่ยวกับการวางแผน การรังวัด การคำนวณและวิเคราะห์รายละเอียดของพื้นผิวโลก เพื่อนำมาใช้ในการทำแผนที่ แผนผังหรือกำหนดค่าพิกัด ฯลฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จำเป็นสำหรับงานด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมต่าง ๆ เช่น การออกแบบทางหลวงและเขื่อน การรังวัดที่ดิน งานชลประทาน งานปฎิรูปที่ดิน งานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ และผลิตผลทางเกษตร และงานผังเมือง  

แนวทางในการประกอบอาชีพ

เป็นผู้นำและควบคุมในการใช้และผลิตแผนที่เพื่อการวางแผน ออกแบบ วิเคราะห์ ตลอดจนการติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ ในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมสำรวจ

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)


12. สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ 
(Mining Engineering) 

เกี่ยวข้องกับการผลิตแร่ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติอย่างหนึ่งเพื่อ นำมาใช้พัฒนาประเทศ ประยุกต์ความรู้ทางวิศวกรรมหลาย ๆ ด้านเพื่อค้นหา ขุดแยก และจัดการกับแร่ธาตุจากแหล่งธรรมชาติ โดยมีสาขาย่อย คือ

- การแต่งแร่ (Mineral Processing)

- การทำเหมืองเปิด (Surface Mining)

- การทำเหมืองใต้ดิน (Underground Mining)

- การจัดการสิ่งแวดล้อมในงานเหมืองแร่ (Environmental Management in Mining)

แนวทางในการประกอบอาชีพ

วิศวกรเหมืองแร่ ในการขุดหาถ่านหิน  ก๊าซธรรมชาติ  น้ำมัน  อัญมนีใต้พื้นดิน และใต้ทะเล  / วิศวกรผลิตและแปรรูปแร่ธาติต่างๆ  และ วิศวกรโลหะการ เป็นต้น

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมเหมืองแร่

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)


13. สาขาวิศวกรรมปิโตรเลียม (Petroleum engineering) 

เป็นสาขาของวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไฮโดรคาร์บอนซึ่งอาจเป็นน้ำมันดิบหรือเป็นก๊าซธรรมชาติ การสำรวจและการผลิตจะถือว่าอยู่ในภาค "ต้นน้ำ" ของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ. การสำรวจโดยนักวิทยาศาสตร์โลกและวิศวกรรมปิโตรเลียมเป็นสองสาขาใต้ผิวโลกหลักของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มสูงสุดของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไฮโดรคาร์บอนจากอ่างเก็บกักใต้ดิน ธรณีวิทยาปิโตรเลียมและธรณีฟิสิกส์มุ่งเน้นไปที่การให้คำอธิบายที่คงที่ของหินอ่างเก็บกักไฮโดรคาร์บอนในขณะที่วิศวกรรมปิโตรเลียมมุ่งเน้นไปที่การประมาณของปริมาณที่สามารถกู้คืนได้ของทรัพยากรนี้โดยใช้ความเข้าใจในรายละเอียดของพฤติกรรมทางกายภาพของน้ำมันน้ำและก๊าซที่อยู่ในหินที่มีรูพรุนที่ความดันสูงมาก

แนวทางในการประกอบอาชีพ

วิศวกรปิโตรเลียม / วิศวกรแหล่งกักเก็บ / วิศวกรขุดเจาะ และ วิศวกรการผลิตเป็นต้น

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมปิโตรเลียม

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)

ปิโตรเคมี (Petrochemical)



14. สาขาวิศวกรรมอุตสาหกรรม (Industrial Engineering) 

เกี่ยวข้องกับการวางแผน วิเคราะห์และควบคุมระบบการผลิตต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม และการบริหารทางธุรกิจ โดยเน้นหนักเรื่องการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนการผลิต ศึกษาแก้ไขปัญหาทางการผลิต และปัญหาต่าง ๆ ของโรงงานอย่างมีระเบียบแบบแผน การวางแผนและการควบคุมการผลิต อีกทั้งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างโรงงานกับฝ่ายบริหารด้วย 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

จบวิศวกรรมอุตสาหการแล้ว ทำงานได้หลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรโรงงาน วิศวกรฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ วิศวกรความปลอดภัย วิศวกรควบคุมกระบวนการผลิต วิศวกรระบบ วิศวกรฝ่ายขาย วิศวกรดูแล Supply Chain และ Logistics ซึ่งมีโอกาสก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผู้จัดการโรงงานหรือผู้บริหารองค์กรได้โดยง่าย เนื่องจากเรียนมาทั้งด้านวิศวกรรมและการบริหาร นอกจากนี้อาจทำงานอื่น ๆ นอกเหนือจากโรงงานต่าง ๆ ได้ เช่น เป็นที่ปรึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการลดต้นทุนในบริษัทต่าง ๆ วิศวกรวิเคราะห์ความเสี่ยงในสถาบันการเงิน หรือจะทำงานรับราชการในกระทรวงต่าง ๆ หากอยากเรียนต่อก็สามารถประกอบอาชีพ ครู อาจารย์ นักวิจัย ได้ในอนาคต หรือสามารถประกอบธุรกิจส่วนตัวได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะเห็นได้ว่างานของ IE มีความหลากหลายมาก

วิศวกรอุตสาหการจะแบ่งออกเป็น ส่วน คือ ส่วนวางแผนที่จะดูเรื่องทรัพยากรการผลิต การวางแผนการผลิตว่าจะผลิตอย่างไรให้ดีต่อโรงงานที่สุด ยกตัวอย่างเช่น วิศวกรอุตสาหการที่อยู่ในแผนกวางแผนการใช้ศักยภาพของโรงงาน ก็จะคิดวางแผนว่า จะใช้โรงงานนั้นๆ ผลิตสินค้าประเภทไหนบ้าง อย่างละเท่าไหร่ ให้ได้กำไรสูงสุดใช้คนทำงาน ใช้เครื่องจักรทำงาน วันละเท่าไหร่ สัปดาห์ละเท่าไหรวางแผนการเปลี่ยนกะ การพัก การทำงานอย่างไร เป็นต้น โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ก็จะต้องทำทั้งจากการสังเกต การสัมภาษณ์ ฯลฯ เพื่อให้ได้ภาพการทำงานที่แท้จริงมาพิจารณา

ส่วนวิศวกรอุตสาหการที่ไปดูระบบการผลิตก็จะคอยดูระบบการผลิตให้ระบบการผลิตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น การลดขั้นตอนการทำงาน การเพิ่มคุณภาพในงาน เหมือนเพื่อนของพี่บางคนเขาก็ทำงานอยู่ในคลังสินค้า ที่จะคอยสังเกต คอยดู ขั้นตอนการทำงานบางอย่างที่มันเสียเวลาโดยไม่จำเป็น คอยหาวิธีลดของเสียจากการผลิต ฯลฯ

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมอุตสาหกรรม


15. 
สาขาวิศวกรรมวัสดุ (Materials Engineering)

ศึกษาเกี่ยวกับความเข้าใจทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งมุ่งเน้นเนื้อหาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของวัสดุ ทั้งการใช้งานและการพัฒนาทางอุตสาหกรรม ทั้งนี้หลักสูตรได้ครอบคลุมวิชาหลักที่สำคัญ ๆ ได้แก่ โครงสร้าง สมบัติ กระบวนการ และสมรรถนะของวัสดุ เช่น การแพร่และจลศาสตร์ ปรากฎการณ์การถ่ายเท การจำแนกลักษณะเฉพาะทางโครงสร้างจุลภาคสมบัติทางกล และสมดุลของเฟส 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

1) วิศวกรวัสดุ (Materials Engineer)
2) วิศวกรการผลิต (Manufacturing Engineer) 
3) วิศวกรวิเคราะห์และซ่อมบำรุง (Inspection and Maintenance Engineer)
4) วิศวกรทดสอบวัสดุ (Materials Testing Engineer) 
5) นักวิจัย สาขาที่เกี่ยวข้องกับวัสดุ (Researcher in Materials Related Fields)
6) อาจารย์ สาขาที่เกี่ยวข้องกับวัสดุ (Lecturer in Materials Related Fields)
7) ผู้ประกอบการ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวัสดุ (Entrepreneur in Materials Related Business)

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมวัสดุ

วัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) 



16. สาขาวิศวกรรมการบินและอากาศยาน  (Aerospace Engineering)

ศึกษาเกี่ยวกับพื้นฐานทางวิศวกรรมการบินและอากาศยาน สาขา ซึ่งประกอบด้วยอากาศพลศาสตร์ และการขับดันอากาศยาน ระบบควบคุมอัตโนมัติและการควบคุมการบิน และการออกแบบโครงสร้างอากาศยาน การให้การศึกษามุ่งเน้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยภาคทฤษฎีจะมีการนำเอาเทคโนโลยีทางด้านงานวิเคราะห์ที่ทันสมัยที่สุดเข้ามาใช้ในการศึกษา และในด้านปฏิบัติจะมุ่งเน้นการทดลองวิจัย เพื่อให้ทางปฏิบัติมีความคล่องตัวสูงสุด สาขาวิชาวิศวกรรมการบินและอากาศยานนี้ ให้การศึกษาครอบคลุมไปถึงส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมชีวกลศาสตร์ เป็นต้น 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

เจ้าหน้าที่บริหารจัดการการจราจรทางอากาศ, เจ้าหน้าที่บริหารการจัดการอุตสาหกรรมและธุรกิจการบินและอวกาศ, เจ้าหน้าที่ควบคุมมาตรฐานการเดินอากาศ, วิศวกรโครงสร้างอากาศยาน, วิศวกรฝ่ายวางแผนการซ่อมบำรุงอากาศยานและชิ้นส่วนประกอบ, วิศวกรโครงการ, วิศวกรเครื่องจักรใหญ่, วิศวกรออกแบบและสร้างอากาศยาน เครื่องยนต์เจ็ท ดาวเทียม, วิศวกรควบคุมวงโคจรและสถานีดาวเทียม หากเป็นงานที่ตรงสาย ส่วนใหญ่งานของวิศวกรการบินในประเทศไทยจะเกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงอากาศยานเป็นหลัก หรือผลิตเครื่องบินเล็กเพื่อใช้ในงานสื่อสาร เกษตรกรรม สำรวจทรัพยากรธรรมชาติ และงานทางการทหาร แต่ถ้ามีโอกาสศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้นและทำงานในต่างประเทศ ขอบเขตงานก็จะกว้างขวางขึ้น เช่น ทำงานกับบริษัทผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่หรือองค์กรระดับโลกอย่างนาซ่าได้ 

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมศาสตร์การบินและอวกาศ (Aerospace Engineering)


17. สาขาวิศวกรรมการอาหาร (Food Engineering)

ศึกษาเกี่ยวกับหลักการของวิศวกรรมการอาหาร วิศวกรรมการแปรสภาพผลผลิตทางการเกษตรให้อยู่ในรูปของอาหาร วิศวกรรมเก็บรักษาอาหาร และวิศวกรรมการผลิตอาหารสำเร็จรูป นอกจากนี้ยังศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบวิเคราะห์และทดสอบเครื่องจักรกลอาหาร ศึกษาระบบควบคุมในการผลิต ตลอดจนการรักษาสภาพแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

1. วิศวกรนักออกแบบเครื่องจักรกลอาหาร และ ออกแบบโรงงานแปรรูปอาหาร

2. วิศวกรปฏิบัติงานในโรงงานแปรรูปอาหาร ที่มีความเฉพาะทาง สามารถควบคุมเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่มีการวิเคราะห์ขั้นสูง

3. นักวิชาการในหน่วยงานของรัฐบาล หรือ หน่วยงานเอกขน ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรแปรรูปอาหาร

4. ผู้ประกอบการ ด้านวิศวกรรมอาหาร นวัตกรรมอาหาร และแปรรูปอาหาร

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมอาหาร


18. สาขาวิศวกรรมเกษตร (Agricultural Engineering)

ศึกษาเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทางด้านวิศวกรรม และสามารถประยุกต์หลักการทางวิศวกรรมในการผลิตทางการเกษตร การแปรสภาพและการเก็บรักษาผลผลิตเกษตรทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ทฤษฎีของเครื่องจักรกลเกษตร การออกแบบเครื่องจักรกลเกษตร กำลังทางระบบการเกษตร การถ่ายเทความร้อนและมวลสาร วิศวกรรมการแปรรูปผลิตผลการเกษตร สมบัติทางกายภาพของผลิตภัณฑ์เกษตร รถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร ระบบและเครื่องจักรกลไฮดรอลิกนิวแมติก พัดลม เครื่องสูบและระบบการจ่าย การวัดและอุปกรณ์วัด การออกแบบเครื่องมือลำเลียงผลิตผลเกษตร วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมการเกษตร และการออกแบบ โครงสร้างอาคารเกษตร 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

วิศวกรในสถานประกอบการด้านอุตสาหกรรมเกษตร วิศวกรออกแบบชิ้นส่วน และควบคุมการผลิตในสถานประกอบการด้านเครื่องจักรกลเกษตร วิศวกรออกแบบ และควบคุมการผลิตในสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาเครื่องกล อาจารย์ในมหาวิทยาลัยของภาครัฐและเอกชน


แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมเกษตร

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)


19. สาขาวิศวกรรมชลประทานและการจัดการน้ำ (
Irrigation Engineering and Water Management)

ศึกษาเกี่ยวกับวิชาพื้นฐานด้านวิศวกรรมของสาขาต่าง ๆ และวิชาเฉพาะของสาขาวิศวกรรมชลประทาน ได้แก่ หลักการชลประทาน การออกแบบระบบชลประทานในไร่นาชนิดต่าง ๆ เช่น การให้นำแบบผิวดิน แบบฉีดฝอยและแบบหยด การวางแผนและออกแบบระบบการส่งน้ำ ระบบสูบน้ำและระบบระบายน้ำ การออกแบบอาคารชลประทานแบบต่าง ๆ เช่น เขื่อน ฝาย คลองส่งน้ำ และอาคารประกอบการพิจารณาวางโครงการ การจัดการเรื่องน้ำ การส่งน้ำและบำรุงรักษา การบริหารโครงการชลประทาน การประยุกต์คอมพิวเตอร์สำหรับวิศวกรรมชลประทาน 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

ประกอบธุรกิจของตนเองด้านวิศวกรรมชลประทาน ระบบให้น้ำในภาคเกษตรกรรม นักวิชาการในสถาบันการศึกษาที่ผลิตระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือผู้สอนในสถาบัน การศึกษาที่ ผลิตระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง นักวิจัยในหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมชลประทานและการจัดการน้ำ

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)

เทคโนโลยีคอนกรีต  (Concrete Technology)


20. สาขาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ 
(Water Resources Engineering)

ศึกษาเกี่ยวกับกลศาสตร์ของของไหล ชลศาสตร์ อุทกวิทยาผิวดินและใต้ดิน วิศวกรรมแม่น้ำ วิศวกรรมทรัพยากรน้ำ การควบคุมคุณภาพน้ำ วิศวกรรมชายฝั่ง การป้องกันและการระบายน้ำในชุมชนเมือง รวมทั้งการประยุกต์วิชาการเพื่อการพัฒนาและจัดการแหล่งน้ำทุกขนาด

แนวทางในการประกอบอาชีพ

1. นักวิชาการด้านทรัพยากรน้ำ
2. วิศกรการจัดการทรัพยากรน้ำ
3. นักอุทกวิทยา/นักอุทกศาสตร์/นักทรัพยากรน้ำ
4. วิศวกรออกแบบระบบระบายน้ำ
5. วิศวกรออกแบบระบบน้ำและการให้น้ำ 
6. ผู้ประกอบการ/บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรน้ำ
7. วิศวกรฝ่ายปฏิบัติ
8. อาชีพอิสระที่ตรงสาขา
9. วิศวกรในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)


21. สาขาวิศวกรรมขนส่ง (Transport engineering) หรือ สาขาวิศวกรรมการขนส่ง (Transportation engineering) 

เป็นการประยุกต์ใช้หลักการทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในการวางแผน, การออกแบบการทำงาน, การดำเนินงานและการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรูปแบบของการขนส่งใดๆ เพื่อที่จะจัดให้มีความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ, รวดเร็ว, สบาย, สะดวก, ประหยัด, และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการไปมาหาสู่กันของผู้คนและสินค้า (ขนส่ง) โดยเป็นสาขาย่อยของวิศวกรรมโยธาและวิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมการขนส่งเป็นองค์ประกอบหลักของสาขางานวิศวกรรมโยธาและสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล

แนวทางในการประกอบอาชีพ

ผู้สำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมขนส่ง  สามารถประกอบอาชีพได้หลายลักษณะ เช่น

1. รับราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจ  หน่วยราชการเกือบทุกแห่งที่มีงานด้านขนส่งและงานวิศวกรรมโยธา ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กรมทางหลวง  การไฟฟ้า  วิศวกรจราจรประจำเทศบาล  องค์การโทรศัพท์  กรมชลประทาน และกรมโยธาธิการ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถประกอบอาชีพเป็นครู อาจารย์ ในสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องได้ด้วย

2. หน่วยงานด้านการขนส่ง ในบริษัทหรือองค์กรที่ทำงานด้านการวางแผน การจัดการ การดำเนินงานระบบขนส่งมวลชน การแก้ไขปัญหาการจราจร การคมนาคมขนส่ง  เช่น องค์การรถไฟฟ้ามหานคร ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ บริษัทการบินไทย บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาทำหน้าที่ศึกษาความเป็นไปได้ และแก้ปัญหาด้านจราจรขนส่ง เป็นหน่วยงานที่ใช้วิศวกรขนส่งจำนวนมาก  และมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองหลักของประเทศ รวมทั้งในบริษัทการค้าที่จะต้องมีการจัดการด้านการขนส่งกระจายสินค้าต่าง ๆ บริษัทขนส่งทางทะเล เป็นต้น

3. ธุรกิจก่อสร้าง โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างทางด่วนรถไฟฟ้า ท่าเรือ หรือสนามบิน และในโครงการก่อสร้างขนาดเล็ก เช่น อาคารโรงงาน บ้านพักอาศัย ถนน สะพาน โดยสามารถอยู่ในธุรกิจได้ทั้งในรูปแบบของเจ้าของงาน วิศวกรที่ปรึกษา วิศวกรหรือผู้รับเหมาก่อสร้าง

4. งานส่วนตัว วิศวกรที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมขนส่ง จะสามารถประกอบอาชีพภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมโยธา สามารถประกอบอาชีพส่วนตัวได้หลาย ๆ รูปแบบ ทั้งเป็นเจ้าของงาน วิศวกรที่ปรึกษา ผู้รับเหมา ซึ่งจะเป็นผู้รับรองการออกแบบ หรือการคำนวณในลักษณะของวิชาชีพวิศวกรควบคุมต่าง ๆ ได้ และเนื่องจากรูปแบบอาชีพเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เป็นปัจจัยหลักของชีวิต ดังนั้น แนวทางอาชีพอิสระจึงมีหลากหลายมาก

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมขนส่ง

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)

เทคโนโลยีคอนกรีต  (Concrete Technology)


22. สาขาวิชาวิศวกรรมโลจิสติกส์ (Logistics Engineering) 

เป็นงานที่เกี่ยวกับเทคนิคทางด้านการออกแบบ และควบคุม สำหรับการขนส่ง จัดเก็บ เคลื่อนย้าย สินค้าและบริการ การวิเคราะห์ วิจัยปัญหาในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่วนที่ เกี่ยวข้องในระบบโซ่อุปทาน และการประยุกต์ทางด้านเทคนิคต่างๆ ที่จะนำไปใช้ในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการจัดการ การเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนในการผลิต รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เทคนิคด้านวิศวกรรมโลจิสติกส์เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญครอบคลุมตั้งแต่เริ่มต้นการดำเนินธุรกิจจนถึงพัฒนาและคงความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเห็นได้จาก ระบบคลังสินค้า ระบบการผลิต ระบบการบรรจุภัณฑ์ ระบบการกระจายสินค้า วางแผนระบบและเครือข่ายการขนส่ง รวมถึง การนำ เข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ โดยผสมผสานความรู้ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์และบริหารจัดการ เข้าไว้ในหลักสูตรเดียวกัน

แนวทางในการประกอบอาชีพ

-  เจ้าหน้าที่จัดซื้อ

-  เจ้าหน้าที่วางแผนการผลิต

-  เจ้าหน้าที่วางแผนและประสานงานเชิ่อมโยงระบบโลจิสติกส์

-  เจ้าหน้าที่คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า

-  เจ้าหน้าที่วางแผนการขนส่งทั้งทางบกและทางทะเล

-  เจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าในธุรกิจขนส่ง

-  ผู้ประกอบการธุรกิจส่วนตัว

-  นักวิเคราะห์ระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน

-  หน่วยงานทางราชการด้านโลจิสติกส์

-  นักวิจัย และนักวิชาการ ด้านโลจิสติกส์

แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมโลจิสติกส์

ปฐพีวิทยาเบื้องต้น (Principles of Soil Science)
ความรู้พื้นฐานด้านกลศาสตร์วิศวกรรม (Engineering Mechanics)
วัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials)
การบริหารจัดการโลจิสติกส์ในมิติที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม (Green Logistics)
การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management)
เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการจัดการโลจิสติกส์ (Technology and Innovation for Logistics Management)
ธุรกิจรับจัดการขนส่งสินค้าและการจัดการนำเข้าส่งออก (Freight Forwarding Business and Export and Import Management)
Green Logistics (การบริหารจัดการโลจิสติกส์ในมิติที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม)


23. สาขาวิชาวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (Robotics Engineering and Artificial Intelligence)

วิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ คือสาขาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์แขนงใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาของยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในอนาคต งานหลายอย่างจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ หลักสูตรนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อสร้างนักพัฒนาซอฟแวร์สำหรับ AI และ Robot 

แนวทางในการประกอบอาชีพ
  • วิศวกรในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า การแพทย์ การเกษตร อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
  • นักวิเคราะห์ออกแบบหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรกล
  • นักออกแบบวงจรอิเลคทรอนิกส์
  • ผู้ประกอบการทางเทคโนโลยี
  • โปรแกรมเมอร์
  • นักวิจัย
แบบทดสอบเกี่ยวกับวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์